The Use of Accounting Data for Lawyers in Thailand ; การใช้ข้อมูลทางบัญชีของนักกฎหมายในประเทศไทย

Abstract

Abstract "The Use of Accounting Data for Lawyers in Thailand" is a qualitative research, which has main objectives of exploring, studying the use of accounting data of lawyers in Thailand and legislative systems in accordance with different categories of enactments, and synthetizing such data as guidance of teaching Accounting for lawyers through in-depth interviews of lawyers in Thailand graduated with Bachelor of Laws and having 10-year work experience. The researcher executed the method of purposive sampling which included judges, police officers, soldiers, attorneys, businessmen, bankers, lawyers, administrators of private companies, university lecturers, and public and private sector officers, equivalent to 25 people. The result found out that 80% was male lawyers, whereas 20% was female. The average age was 47 years old, and the average year of work experience was 24 years. Most male lawyers (64%) used to work in other fields prior. Within the 24-minute interview per interviewee, 92% of lawyers have worked in professions incorporating accounting, whilst another 8% has never experienced any accounting. 86.95% of the use of accounting data is financial accounting. About 47.82% of the use of accounting intersected most with civil and commercial laws. 68% of the lawyers opined that it is crucial for lawyers in Thailand to possess some knowledge of accounting because it will be very advantageous to their careers. Nevertheless, 4% claimed that accounting becomes necessary when being in positions of top management teams. Only 28% pointed out that lawyers need accounting. Topics of accounting lawyers ought to enlighten on tend to be financial statements, overall operations and liquidity as well as the calculation of interest and taxation. Key words: The use of accounting data, lawyers in Thailand ; บทคัดย่อ การวิจัยเรื่อง การใช้ข้อมูลทางบัญชีสำหรับนักกฎหมายในประเทศไทย เป็นการวิจัยเชิงคุณภาพ (Qualitative Research) มีวัตถุประสงค์เพื่อสำรวจการใช้ข้อมูลทางบัญชีของนักกฎหมาย ศึกษาการใช้ข้อมูลทางบัญชีของนักกฎหมายในประเทศไทยกับระบบกฎหมายตามบทบัญญัติแต่ละประเภทและเพื่อสังเคราะห์ข้อมูลอันเป็นแนวทางการสอนวิชาการบัญชีสำหรับนักกฎหมาย ด้วยการสัมภาษณ์แบบเจาะลึก (In depth Interview) นักกฎหมายในประเทศไทยที่สำเร็จการศึกษานิติศาสตร์บัณฑิตและมีประสบการณ์ทำงานมาแล้วอย่างน้อย 10 ปี โดยเลือกตัวอย่างแบบเจาะจง (Purposive Sampling) ซึ่งประกอบด้วย ผู้พิพากษา ตำรวจ ทหาร ทนายความ นักธุรกิจ นายธนาคาร นิติกร ผู้บริหารบริษัทเอกชน อาจารย์มหาวิทยาลัย พนักงานหน่วยงานของรัฐและเอกชน จำนวน 25 คน ผลการวิจัยพบว่า นักกฎหมายเป็นเพศชาย ร้อยละ 80 เพศหญิงร้อยละ 20 อายุเฉลี่ย 46.76 ปี ประสบการณ์ทำงานเฉลี่ย 24.24 ปี นักกฎหมายร้อยละ 64 เคยทำงานด้านอื่นนอกเหนือจากอาชีพปัจจุบันมาก่อน ระยะเวลาในการสัมภาษณ์เฉลี่ย 24 นาที นักกฎหมายร้อยละ 92 มีงานที่เกี่ยวข้องกับการใช้ข้อมูลทางบัญชี ร้อยละ 8 ไม่เคยพบงานที่เกี่ยวกับบัญชีเลย ข้อมูลทางบัญชีที่นักกฎหมายใช้ร้อยละ 86.95 เป็นบัญชีการเงินมากที่สุด การใช้ข้อมูลทางบัญชีร้อยละ 47.82 มีความเกี่ยวข้องกับประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มากที่สุด นักกฎหมายร้อยละ 68 มีความเห็นว่าจำเป็นมากที่นักกฎหมายต้องมีความรู้ทางบัญชี เพราะได้ใช้ประโยชน์ในการทำงาน ร้อยละ 4 มีความเห็นว่าจำเป็นต้องมีความรู้ถ้าเป็นผู้บริหารและร้อยละ 28 เห็นว่านักกฎหมายควรมีความรู้ด้านบัญชี เรื่องที่นักกฎหมายเห็นว่าควรมีความรู้ทางบัญชีมากที่สุด คือ งบการเงิน รองลงมา คือ ผลการดำเนินงานและสภาพคล่อง นอกจากนี้ ควรมีความรู้เพิ่มเติมในเรื่องการคิดดอกเบี้ยและภาษีอากร คำสำคัญ (1) การใช้ข้อมูลทางบัญชี (2) นักกฎหมายในประเทศไทย