Der Bericht liefert Hintergrundinformationen zur industriellen Zusammenarbeit in der Region, beschreibt die Planung und den Stand der Durchführung des "Integrated Industrial Promotion Programme" und die einzelnen Projekte
The objectives of the research were to study 1.) the policies on Thai Textile Industrial Promotion and Development, 2) the analysis of the factors to promote and develop of Thai textile for global competition, 3) the mapping for the policies to promote and develop the Textile Industrial investment for global competition. Samplings were 600 industries from total numbers of 4265 textile industries as subjects were randomly classified by studying their plans for policies setting to promote and develop their Textile products highly qualified to compete with the world top industrial products. The research was completely investigated through qualitative research methodology by document research and interviews of 18 interviewees of policies on their Textile promotion and development for competition with worldwide textile industries through: 1) document recording forms 2) questionnaires and 3) quasi-structure interview forms. Data are analyzed by content analysis, percentage, frequencies, mean, standard deviation and factor analysis. Findings were; 1) the policies on promotion development for global competition based on government public policy by Ministry of industry and private sector policies, and others to promote economic growth of the country through the utmost capacity for competition but on the purpose to conserve societies and development. The findings for the promotion and environment of Thai textile for global competition were at the moderate level. 2. The promotion and development of Thai textile industries for global competition were based on factors: 1) Productivity, 2) Product Quality, 3) Marketing Information, 4) Labor Intensive 5) International Policy and Law, 6) Competitiveness 3. The mapping for policies setting on promotion and development of Thai textile industrial business for the global competition was to allocate to each factor as follows: 1) Productivity in all aspects of production from the promotion to the strength of the industrial owner, the development for promotion local textile materials for production to reduce pollutants and to be friend to the environment; 2) Product Quality should be the value added one with new innovation from Thai brands; 3) Marketing Information -the data should be managed by the central office as a center for textile data ready for the rapid invasion of export promotion; 4) For Labor Intensive, there should be upgraded and integrated development for skilled labours in textile knowhow and there should be certified and managed by the office of the foreign labour force; 5) For International Policy and Law for textile should be synchronized along with national benefits in textile promotion development; and 6) For Competitiveness the promotion and development of Thai textile needed to be prepared for the competition globally, as well as free trade policies and mutual cooperation among AEC members for the prosperity of Thai textile. ; การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษานโยบายการส่งเสริมและพัฒนา อุตสาหกรรมสิ่งทอไทย 2) วิเคราะห์องค์ประกอบการส่งเสริมและพัฒนาอุตสาหกรรม สิ่งทอไทยเพื่อการแข่งขันระดับโลก และ 3) ศึกษาแนวทางการกำหนดนโยบายการส่ง เสริมและพัฒนาอุตสาหกรรมสิ่งทอไทยเพื่อการแข่งขันระดับโลก ประชากรที่ใช้ในการ วิจัย คือ โรงงานอุตสาหกรรมสิ่งทอไทย จำนวน 4,265 โรงงาน กลุ่มตัวอย่าง คือ โรง งานอุตสาหกรรมสิ่งทอไทย จำนวน 600 โรงงาน ได้มาจากการสุ่มแบบแบ่งชั้น การศึกษา แนวทางการกำหนดนโยบายการส่งเสริมและพัฒนาอุตสาหกรรมสิ่งทอไทยเพื่อการแข่ง ขันระดับโลก ใช้ระเบียบวิธีวิจัยเชิงคุณภาพโดยการวิจัยเอกสารและการสัมภาษณ์ผู้ให้ ข้อมูลจำนวน 18 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ 1) แบบบันทึกเอกสาร 2) แบบ สอบถามความคิดเห็น 3) แบบสัมภาษณ์แบบกึ่งโครงสร้าง สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ ข้อมูล ได้แก่ การวิเคราะห์เนื้อหา ค่าร้อยละ ค่าความถี่ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการวิเคราะห์องค์ประกอบ ผลการวิจัย พบว่า 1. นโยบายการส่งเสริมและพัฒนาอุตสาหกรรมสิ่งทอไทย ซึ่งประกอบไปด้วย ทิศทางและเป้าหมายของนโยบาย ยุทธศาสตร์ แผนแม่บท ทั้งส่วนที่เป็นของรัฐบาล กระทรวงอุตสาหกรรม หน่วยงานภาครัฐที่อยู่ภายนอกสังกัดกระทรวงอุตสาหกรรมและหน่วยงานเอกชน มีทิศทางและเป้าหมายสำคัญ คือ เป้าหมายทางด้านการเจริญ เติบโตทางเศรษฐกิจโดยการสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันและเป้าหมายทางสังคม และสิ่งแวดล้อม ส่วนระดับการส่งเสริมและพัฒนาอุตสาหกรรมสิ่งทอไทยเพื่อการแข่งขัน ระดับโลกอยู่ในระดับปานกลาง 2. องค์ประกอบการส่งเสริมและพัฒนาอุตสาหกรรมสิ่งทอไทยเพื่อการแข่งขัน ระดับโลก ประกอบด้วย 6 องค์ประกอบ คือ 1) ประสิทธิภาพการผลิต 2) คุณภาพ สินค้า 3) ข้อมูลการตลาด 4) แรงงาน 5) นโยบายระหว่างประเทศและกฎหมาย และ 6) ความสามารถในการแข่งขัน 3. แนวทางการกำหนดนโยบายการส่งเสริมและพัฒนาอุตสาหกรรมสิ่งทอไทย เพื่อการแข่งขันระดับโลก คือการกำหนดนโยบายในแต่ละด้านตามองค์ประกอบการ ส่งเสริมและพัฒนาอุตสาหกรรมสิ่งทอไทยเพื่อการแข่งขันระดับโลก ทั้ง 6 องค์ประกอบ ดังนี้คือ 1) ด้านประสิทธิภาพการผลิต คือ การพัฒนาอุตสาหกรรมสิ่งทอตลอดห่วงโซ่ มูลค่าการเสริมสร้างความเข้มแข็งผู้ประกอบการ การส่งเสริมและพัฒนาการใช้วัตถุดิบใน ประเทศ และการส่งเสริมการผลิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม 2) ด้านคุณภาพสินค้า คือ การพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่ม การสร้างนวัตกรรมและความคิดสร้างสรรค์ และ การสร้างตราสินค้าสัญชาติไทย 3) ด้านข้อมูลการตลาด คือ การตลาดเชิงรุกและการ พัฒนา การบริหารจัดการข้อมูล การมอบหมายหรือจัดให้มีหน่วยงานที่เป็นศูนย์กลางรับ ผิดชอบเก็บรวบรวมข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมสิ่งทอ 4) ด้านแรงงาน คือ การยกระดับทุนมนุษย์เชิงบูรณาการ การพัฒนาทักษะแรงงานอุตสาหกรรมสิ่งทอ และ การบริหารจัดการแรงงานต่างด้าว 5) ด้านนโยบายระหว่างประเทศและกฎหมาย คือ การพัฒนานโยบายระหว่างประเทศและกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมสิ่งทอให้ สอดคล้องและเป็นประโยชน์ต่อการส่งเสริมและพัฒนาอุตสาหกรรมสิ่งทอ และ 6) ด้าน ความสามารถในการแข่งขัน คือ การยกระดับปัจจัยพื้นฐานที่สำคัญเพื่อสนับสนุนการ สร้างสรรค์และการแข่งขันในเวทีสากล การเตรียมความพร้อมสู่การเปิดเสรี และการสร้าง โอกาสจากความร่วมมือในประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน
Arbeitspapier, das einen kontinuierlichen Diskussionsprozeß der westafrikanischen Regierungen über Bereiche und Projekte multilateraler Kooperation auf dem Industriesektor in Gang setzen soll. Beteiligt sind an diesem Vorhaben Benin, Kapverden, Gambia, Ghana, Guinea-Bissau, Guinea, Elfenbeinküste, Liberia, Mali, Mauretanien, Niger, Nigeria, Senegal, Sierra Leone, Togo und Burkina Faso. (DÜI-Ker)
Arbeitspapier, das einen kontinuierlichen Diskussionsprozeß der ost- und südafrikanischen Regierungen über Bereiche und Projekte multilateraler Kooperation auf dem Industriesektor in Gang setzen soll. Beteiligt sind an diesem Vorhaben Angola, Botswana, Burundi, Komoren, Dschibuti, Kenia, Lesotho, Madagaskar, Malawi, Mauritius, Mosambik, Rwanda, Seychellen, Somalia, Swasiland, Tansania, Uganda, Zaire, Sambia und Zimbabwe. (DÜI-Ker)
